รีวิวหนัง Everything Everywhere All at Once

รีวิวหนัง Everything Everywhere All at Once เรื่องย่อ: เอเวลิน หวาง (มิเชลล์ โหย่ว) เป็นหญิงชาวจีนที่ต้องรับผิดชอบทุกอย่างในครอบครัว รวมถึงธุรกิจซักแห้งที่ขาดทุนมานานหลายปี การแต่งงานกับสามีที่น่าเบื่อ (Ke Hui Quan, Ke Huy Quan) และความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงกับลูกสาว (Stephanie Su, Stephanie Hsu) พ่อ (เจมส์ ฮง) และนายภาษีผู้โหดเหี้ยม (เจมี ลี เคอร์ติส) มาเก็บภาษีและขู่จะยึดร้าน

จนกระทั่งวันหนึ่ง เอเวลินค้นพบว่ามีสิ่งมีชีวิตมากมายในลิขสิทธิ์ ซึ่งแต่ละคนมีเป้าหมายในชีวิตที่แตกต่างกัน ชีวิตมีทั้งทางดีและทางร้าย เธอยังมีพลังที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไป อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอมาถึงโลกที่แปลกประหลาดนี้ ศัตรูลึกลับก็ปรากฏตัวขึ้นและพยายามกำจัดเธอในจักรวาลอื่น จนกระทั่งเอเวลินต้องเผชิญหน้ากับมหาสงครามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อผลักดันไปสู่จุดสูงสุด จุดประสงค์ที่แท้จริงของ

มีฉากนองเลือดที่ส่งตรงจากหนังสยองขวัญที่ฟ้องจิทุกที่ ทั้งหมดในคราวเดียว หรือผ่านลิขสิทธิ์ และเราอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างมาก มีหลายฉากที่ไม่สามารถคาดเดาการกระทำของคนร้ายได้ วิธีจับคน หักคอ หรือฆ่า สุดพิลึกพิลั่น แต่ความโหดร้ายที่แท้จริงของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ที่วิธีการสร้าง Daniels นามแฝงของผู้กำกับ Daniel Kwan และผู้กำกับ Daniel Scheinert เพิ่งมีการทำงานร่วมกันที่แปลกประหลาดใน Swiss พูดคุยเกี่ยวกับการผจญภัยร่วมกัน เป็นเรื่องของบุคคลที่มีชื่อเสียงสองคนอย่าง Russo Brothers ที่หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจใน Avengers: Endgame (2019) แล้ว เขาก็ได้สร้างภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง รวมถึง ‘Extraction’ (2020) ที่กำกับโดย Sam Hargrave มันจะดึงดูดความสนใจของ ผู้ผลิต

ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญหรือความตั้งใจเล็กๆ ที่ “Everything Everywhere All at Once” มีพล็อตเรื่องที่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์เหมือนกับภาพยนตร์ Marvel Phase ล่าสุด ช่วงใกล้ปีของการเปิดตัว Doctor Strange in the Madness of Madness กำลังเล่นอยู่ ด้วยโครงเรื่องที่หลากหลาย มันยังพูดถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวของชาวเอเชียที่คล้ายกับ “Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings” และในแง่ของความโชคดีของ Awkwafina เธอได้รับการทาบทามให้เล่นเป็นลูกสาวของ Michelle ในตอนแรก โหยวไม่มาเยี่ยมด้วย

โหดมาก รีวิวหนัง Everything Everywhere All at Once

รีวิวหนัง Everything Everywhere All at Once นอกจากนี้ยังอาจรวมถึงเทคนิคการแสดงเพื่อปรับเปลี่ยนบุคลิกของ Ki Hui Quan ผู้รับบทดังตอนเด็กในภาพยนตร์เรื่อง Indiana Jones and the Temple of Doom (1984) ในเรื่องเขารับบทเป็นสามีที่เปิ่นๆ ของ Misch l ถูกครอบงำด้วยตัวตนมิติอื่นที่เหนือกว่า สิ่งนี้ทำให้นึกถึงการแสดงที่ไม่มีใครเทียบได้ของ Oscar Isaac ในซีรีส์เรื่อง Moon Knight แต่ทีมผู้ผลิตยังคงเป็นความลับเกี่ยวกับสิ่งที่ Marvel จะออก จนคุณเริ่มคิดว่าคุณกำลังดูอยู่ มันถูกปล่อยออกมาก่อนหน้านี้หรือไม่ ปี? (ฮา) และ Randy Newman ซึ่งผู้สร้างยังคงตั้งใจทำเพลงให้กับภาพยนตร์ Pixar ที่มีชื่อเสียงหลายเรื่อง ) โปรดเลือก เราชอบที่จะได้ยินตัวละครลับของคุณล้อเลียนภาพยนตร์ Pixar นี่อาจเป็นการล้อเลียนเพลงฮิตของดิสนีย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเคยดู Doctor Strange มาก่อน มันรู้สึกยิ่งกว่านั้นเมื่อมีหลายสิ่งหลายอย่างที่สร้างความสนุกสนานให้กับภาพยนตร์ Marvel โดยไม่ได้ตั้งใจ

นอกจากทีมสร้างและนักแสดงจะโหดพอที่จะทำให้ Disney โกรธแล้ว (แต่จริงๆ แค่แซวเล่น) ยิ่งทำให้หนังเรื่องนี้โหดขึ้นไปอีก , Michel ลดเฟรมเรตของกล้องให้ช้าลง , Miche.Slowdown Gesture แล้วเล่นเลย ด้วยความเร็วปกติจนกว่าจะสร้างภาพพิเศษ การถ่ายภาพยนตร์ความเร็วสูงช่วยให้ผู้ตัดต่อสามารถใช้สโลว์โมชันในฉากที่ต้องการได้ หรือแม้ว่าจะต้องใช้ CG ทีมงานของ Daniels แสดงให้เห็นข้างต้นโดยใช้ทีมสเปเชียลเอฟเฟ็กต์เพียง 9 คน รวมผู้กำกับ 2 คน เพื่อสร้าง CG สำหรับภาพยนตร์ทั้งเรื่อง และที่ Ginger Studio เรามีทีมเทคนิคขนาดใหญ่ที่เบาและเชี่ยวชาญ และทุกคนพยายามฝึกฝนตัวเองผ่าน YouTube

และเมื่อคุณดูจนจบ หนังเรื่องนี้ไม่ได้เบาสมองอย่างที่คุณคิด แต่ก็ซ่อนสัญลักษณ์ต่างๆ ไว้มากมาย เช่น ตากลมโต วงกลมขาวดำที่วางเกือบตลอดทั้งเรื่องซึ่งสามารถใช้ติดของเล่นได้ ตัวละครไข่อีสเตอร์ได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์ฮิต เช่น ‘Indiana Jones,’ ‘Die Hard,’ และแม้แต่ ‘In the Mood for Love’ รวมถึง ‘Absolutely (Story of a Girl)’ ของ Nine เป็นคำพูดจาก เพลงเช่น แก่นของเรื่อง Nirvana คล้ายกับอุปลักษณ์ Paramartman แต่ใครจะตีความได้แค่ไหน? วิเคราะห์อย่างจริงจัง

มัน-ฮา

ต้องบอกว่าความโหดของหนังเรื่องนี้ค่อนข้างน่าศึกษาสำหรับผู้สนใจงานเบื้องหลัง และขอเน้นย้ำอีกครั้งว่าความคิดสร้างสรรค์มีชัยในด้านนี้ มีอารมณ์ขันที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจ เพราะความสนุกในที่นี้ไม่ได้หมายถึงฉากต่อสู้ที่เร้าใจเท่านั้น ภาพยนตร์สามารถดึงเอาองค์ประกอบสมัยใหม่จากภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่องมาผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างสนุกสนาน ไม่ใช่เรื่องตลกในชื่อเรื่องที่หนังแบ่งออกเป็นสามส่วน เริ่มต้นด้วย “ทุกอย่าง ทุกที่” และลงท้ายด้วย “ทั้งหมดในครั้งเดียว” แถมยังบอกอีกว่านี่เป็นการรวมหนังแทบทุกประเภทมารวมกันแล้วจะได้เซอร์ไพรส์อีกเพียบ เรียกว่า ครบทุกอารมณ์ พรีเซ้นต์กันเต็มที่ รวมอยู่ในเรื่องเดียว: Mass, Indie, Sci-Fi, Action, Drama, Comedy, Philosophy, Time Break และอีกมากมาย

ฉันนึกภาพหนังอย่าง Pixar, Jackie Chan, Wong Kar-wai, Chen Kai-ge, Shaw Brothers, Stanley Kubrick, Wachowski ไม่ออก และในหลายพื้นที่ก็มีทั้งความนับถือและเย้ยหยัน เรื่องหนึ่ง ๆ นี้จะสนุกแค่ไหน ถ้วยชาสำหรับครูยิ่งดูยิ่งอิ่มใจและสนุกมากขึ้นเป็นสองเท่าสามเท่า

Everything Everywhere All At Once เป็นเรื่องเกี่ยวกับภาษีที่ค้างชำระ สามีขี้เหร่ ลูกสาวที่อยากเปิดเผยตัวเองให้แม่เห็น และพ่อแก่ๆ ที่กำลังเจ็บปวด เธอไม่รู้วิธีดึงเธอไปสู่อีกมิติหนึ่ง ด้วยความเลวร้ายที่สุด วายร้าย Evelyn จึงต้องปฏิบัติภารกิจเพื่อกอบกู้ลิขสิทธิ์ในขณะเดียวกันก็ล้างความคิดของคนรอบข้าง ข้อคิดหลังดู – Everything Everywhere All at Once เป็นหนังอีกเรื่องที่ใช้ลูกเล่นบ้าๆ บอๆ สอดแทรกองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งแอ็คชั่นกังฟู ไซไฟนอกโลก คอมเมดี้บ้าๆ บอๆ และดราม่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของดราม่า หนังเรื่องนี้ยังคงถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละคร ทั้งครอบครัวและการแต่งงานมีหัวจิตหัวใจ จนฉันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่และลืมไปเสียสนิทว่ากำลังดูหนังบ้าๆบอๆเรื่องนี้อยู่ นอกจากหนังแล้วยังมีฉากแอคชั่นจากหนังกังฟูคาราโอเกะ และเขาทำให้มันเจ๋งและยอดเยี่ยมมากจากโลกนี้ จนบางฉากทำเอาน้ำตาซึมรีวิวหนัง Everything Everywhere All at Once

น้ำตาไหล

ต้องปรบมือให้ ทึ่ง ไม่คิดว่าหนังเรื่องนี้จะทำเอาน้ำตาซึมได้ขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องตลก ไม่ใช่เรื่องสนุกในการแสดงความคิดสร้างสรรค์ด้วยความคิดสร้างสรรค์ แต่นั่นเป็นส่วนของละครที่ดูธรรมดา ความเป็นภรรยาของลูกสาวและความเป็นแม่รีวิวหนัง Everything Everywhere All at Onceละครไทยอย่าง “เมีย 2018” กล่าวว่า “เมื่อฉันแต่งงาน โลกของฉันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นโลกของคุณ นอกจากการเป็นภรรยาและแม่แล้ว ฉันไม่มีที่อยู่” แต่เรื่องราวยังเน้นถึงผลกระทบของมัน มีต่อคนรอบข้าง เช่น สามี.. หรือตัวลูกเองจนกลายเป็นปัญหาความสัมพันธ์

แม้ว่าการนำเสนอของหนังจะให้ปรัชญาที่บางครั้งเข้าใจยาก แต่ก็มีหลายฉากที่มองเห็นหน้าอกของตัวละครได้อย่างชัดเจน ค่อยๆเก็บรายละเอียดทางอารมณ์จนระเบิดในฉากสุดท้ายที่ต้องเคลียร์ เช่น ฉากที่เราเห็นปฏิกิริยาต่อการเลือกในโลกอื่นหากตัวละครหลักไม่ได้แต่งงาน การแสดงของครูนักแสดงรุ่นเก๋าอย่างมิเชลล์ โหย่ว ยังต้องชื่นชม เพราะพวกเขาสร้างความประทับใจให้กับความรักของแม่ที่ทำให้เธอน้ำตาไหล และความรักในครอบครัว จักรวาลจะไม่เปลี่ยนแปลง

บทสรุปอาจไม่หวือหวาแต่เรื่องราวกลับพาคนดูมาถึงจุดนี้ได้ หลังจากเป็นคอหนัง ผมก็ไปดูหนังเรื่อง Green Nights ของ A24 Camp คราวนี้ตามกระแสของ Marvel Universe ผลงานใหม่หายาก Everything Everywhere All At Once หรือ Su Jae via Multiverse เป็นภาษาไทย ผลงานการสร้างสรรค์ของผู้กำกับคู่หูสุดแปลก Daniel Kwan และ Daniel Scheinert หรือเรียกสั้นๆ ว่า Daniel Scheinert ซึ่งผลิตวิดีโอภาพยนตร์เรื่องนี้หมกมุ่นอยู่กับซากศพที่ผายลม ด้วยบทบาทของ Yeo, Ke Hoi Kuan เด็กชายในตำนานจาก Indiana Jones และ Temple of Doom เขากลับมาเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี แต่คนเด่นอย่าง Jamie Lee Curtis นักแสดงสาวก็ยังไม่ดีพอที่จะอยู่ใน แสดงยัง

บทความที่เกี่ยวข้อง